Seven Knights: Rebirth กลับมาใหม่ มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง?

สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงเกมส์ Seven Knights Re:Birth กันนะครับ โดยเมื่อพูดถึงเกม Seven Knights ภาคแรกที่ผมเล่นมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กๆอยู่ ความทรงจำมากมายก็ผุดขึ้นมาในใจและยังเป็นเกมส์กาชาเกมส์แรกที่ผมได้เล่นเลย เนื้อหาต่างๆมากมาย ภารกิจ การลงดันเจี้ยนต่างๆ PvP ตัวละครต่างๆ ให้ความรู้สึกที่ชวนคิดถึงจริงๆครับ

และตอนนี้ Seven Knights 1 นั้นกำลังจะกลับมาเปิดใหม่ภายใต้ชื่อ ‘Seven Knights Re:Birth’ ซึ่งทำให้ผมอดที่จะตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้เลยครับ ผมตั้งตารอที่จะได้เห็นว่า Seven Knights Re:Birth นี้จะเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Seven Knights เวอร์ชันเก่าและ Re:Birth ดูว่ามีอะไรที่แตกต่างกันบ้างและมีเนื้อหาพิเศษอะไรบ้างที่ถูกเพิ่มเข้ามา

 

เนื้อเรื่องใหม่

ว่ากันด้วยเนื้อเรื่องกันก่อน เนื้อเรื่องนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ตอนเริ่มเกมส์นั้นเริ่มด้วยเรื่องราวที่ Evan และ Karin ที่ออกผจญภัยด้วยกันโดยมี Necklace Fairy คอยนำทาง

ในภาคแรกนั้นเรื่องราวการเดินทางของ Evan และ Karin จะถูกถ่ายทอดจากมุมมองบุคคลที่สาม แต่ในภาค Rebirth เรื่องราวจะดำเนินโดยให้ผู้เล่นเป็นตัวเอกของเนื้อเรื่องการผจญภัยของ Evan และ Karin และเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ในช่วงต้นจะมีพากย์เสียงทั้งหมดเลยด้วยครับ

ในช่วงเริ่มต้นของเกม ผู้เล่นยังสามารถพบกับตัวละครคุ้นหน้าคุ้นตาที่เคยเห็นกันมาในภาคแรกอย่าง Rudy, Ariel, Karon และ Sniffer ถือว่าเป็นการหวนคืนภาพย้อนวันวานให้ชัดเจนมากขึ้นไปอีกเยอะเลยหละครับ

 

ระบบต่อสู้

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน Seven Knights Re:Birth คือระบบการต่อสู้ครับ เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นผู้เล่นสามารถตรวจสอบลำดับการโจมตีของตัวละครได้จากหน้าจอด้านซ้าย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ไม่มีในภาคแรกและลำดับการโจมตีก็จะเรียงจากตัวละครที่เร็วสุดไปจนถึงช้าสุดนะครับ นอกจากนี้ทุกครั้งที่ตัวละครโจมตีปกติจะสะสมสัญลักษณ์รูปดาวเอาไว้ และหากรวบรวมดาวเหล่านี้ได้สองดวงจะสามารถใช้สกิลพิเศษได้ซึ่งถือว่าเป็นระบบใหม่ที่ต่างจากภาคแรกเยอะเลยหละครับ

ตอนนี้ผู้เล่นสามารถจองใช้สกิลล่วงหน้าได้สูงสุด 3 สกิลทำให้ลำดับการใช้ทักษะในการต่อสู้มีความสำคัญมากขึ้น และเหมือนกับในภาคแรกที่ทีมที่มีความเร็วในการโจมตีสูงสุดจะได้เปรียบจากการเริ่มโจมตีก่อน และยิ่งทำให้ได้เปรียบมากขึ้นจากการเพิ่มกลไกใหม่ที่สามารถใช้สกิลพิเศษได้หลังจากโจมตีสองครั้ง

และระบบที่คุ้นเคยจากภาคแรกอย่าง การเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่ม รวมถึงระบบกดจองใช้สกิลก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ถือว่าเป็นการรวมวิธีการเล่นแบบเก่าและแบบใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างดีเลยหละครับ

 

Raid และดันเจี้ยนต่างๆ

ความทรมาณภาคแรกยังชัดเจนในการฟาร์มหาวัสดุหรือสิ่งของที่จำเป็นในการอัพตัวละคร ลง Raid หาอุปกรณ์ ระบบ PvP ที่โดนผู้เล่นอื่นตีหัวแตก และการฝ่านรกที่เรียกว่าไต่หอคอย แต่หลายๆสิ่งเปลี่ยนไปแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดันเจี้ยนฟาร์มหาวัสดุอัพเกรดตัวละครได้ถูกดัดแปลงใหม่ ในภาคแรกนั้นการจะฟาร์มหาวัสดุชิ้นไหนก็ต้องรอวันที่ดันเจี้ยนนั้นๆเปิด แต่ในภาคใหม่นี้ไม่จำเป็นต้องรออีกต่อไป สามารถเข้าได้ตลอดเวลาทุกวันเลยหละครับ และยังเปลี่ยนชื่อจากดันเจี้ยนรายวันเป็นดันเจี้ยนแห่งการเติบโตอีกด้วย

แต่ถึงอย่างนั้นระดับความยากก็ถูกเพิ่มขึ้นจากภาคแรก ในช่วงด่านแรกๆนั้นมันก็ยังคงง่ายเหมือนเดิม แต่ตั้งแต่ประมาณด่าน 6-7 ขึ้นไปความยากนั้นจะเพิ่มขึ้นเยอะเลยหละครับ แต่มากับเงื่อนไขที่ว่าต้องมีหรือไม่มีตัวละครไหนในทีมบ้าง ซึ่งตรงนี้จะส่งผลต่อความยากง่ายของดันเจี้ยนด้วย

 

ระบบย่อหน้าจอระหว่างออโต้ฟาร์ม

ระบบย่อหน้าจอนั้นได้มีการรีเวิร์คใหม่ ซึ่งระบบย่อหน้าจอในภาคแรกนั้นก็มีเช่นกัน แต่ได้รับการรีเวิร์คใหม่ให้ใช้งานได้ดีขึ้น ในระหว่างเปิดออโต้ฟาร์มผู้เล่นสามารถกดย่อหน้าจอและสามารถไปลงดันเจี้ยนอื่นๆในระหว่างนั้นได้ โดยหากผู้เล่นออกเกมส์ระบบออโต้ฟาร์มก็ยังทำงานตามปรกติ ทำให้ผู้เล่นไม่ต้องเปลืองแบตหรือเวลาโดยใช่เหตุ ถือว่าดีมากๆเลยหละครับสำหรับคนไม่ค่อยมีเวลาเปิดทิ้งไว้

 

การสุ่มกาชา

ระบบกาชานั้นคล้ายกับภาคแรกแต่เป็นเวอร์ชันที่อัปเกรด จะมีแสงเปล่งประกายเมื่อสุ่มได้ตัวละครระดับหายากหรือสูงกว่านั้นดูดีขึ้นกว่าภาคแรกมากเลยหละครับ

 

หน้าจอล็อบบี้

หน้าจอล็อบบี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมากเหมือนกันครับ ซึ่งในล็อบบี้ใหม่จะมี NPC ยืนอยู่ทำให้ใช้งานง่ายและดูดีกว่าเดิมมากครับ UI ก็ถูกจัดเป็นระเบียบทำให้หน้าจอไม่ดูรกจนเกินไป

 

ระบบที่ต้องเสีย Ruby ในการปลดจะหายไป

ในส่วนนี้ สิ่งที่ผู้เล่นต้องใช้ Ruby ในการซื้อจำพวก รูปแบบแผนต่างๆ, ระดับรูปแบบแผน, จำนวนการต่อสู้ซ้ำ และเพิ่มจำนวนช่อง ได้ถูกนำออกและสามารถเพิ่มระดับได้โดยการเพิ่มเลเวลบัญชีของผู้เล่น

และสวนที่สำคัญมากๆคือระดับรูปแบบแผนนั้นจะอัพเกรดเต็มเองตอนเลเวล 40 เพราะฉะนั้นผู้เล่นจะต้องรีบเลเวล 40 ให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ใช้รูปแบบแผนที่ต้องการได้แบบเต็มประสิทธิภาพนะครับ

 

อารีน่า

ต่อไปมาดูที่ระบบ Arena กันบ้างนะครับ ซึ่งในภาคใหม่นี้ได้เพิ่มระบบใหม่เข้าไป

ระบบอารีน่าใหม่ในเกมส์ Seven Knights Re:Birth นั้นสามารถจองใช้สกิลล่วงหน้าได้และเพิ่มฟังก์ชั่นตรวจสอบคูลดาวน์ของสกิลของฝ่ายตรงข้ามเข้าไปด้วย ทำให้การเล่นนั้นต้องใช้ความรู้และความคิดเชิงกลยุทธ์มากขึ้น

 

ระบบไต่หอ

เนื้อหาของหอคอยไร้จุดสิ้นสุดนั้นได้รับการจัดเตรียมไว้รอผู้เล่นเรียบร้อยแล้ว เมื่อไหร่ที่ระบบหอคอยไร้จุดสิ้นสุดเปิดแนะนำว่าให้รีบไต่หอคอยเลยนะครับ เพราะระบบนี้นั้นให้ของรางวัลที่ดีมากๆใช้สำหรับพัฒนาไอดีของผู้เล่นได้อย่างมากเลยหละครับ

จบกันไปแล้วสำหรับการแนะนำเกมส์ Seven Knights Re:Birth เรียกได้ว่าการปรับเปลี่ยนใหม่ของภาคนี้นั้นทำให้เกมส์ง่ายขึ้นจากภาคแรกเยอะมากเลยครับ ผู้เล่นเก่าก็ไม่ต้องมาเหนื่อยลำบากตรากตรำเหมือนก่อน ผู้เล่นใหม่ก็สามารถสนุกไปกับเกมส์นี้ได้ด้วย และนอกจากนั้นหากต้องการเล่น Seven Knights Re:Birth บน PC เพื่อสัมผัสประสบการณ์และงานภาพที่สวยงาม แนะนำให้ผู้เล่นใช้งาน LDPlayer นะครับ สะดวก ใช้ง่าย และยังเปิดหลายๆจอพร้อมกันได้อีกต่างหาก ยังไงก็ฝากด้วยนะครับผม สำหรับวันนี้ผู้เขียนนั้นขอลาไปก่อนนะครับ ไว้เจอกันตอนเกมส์เปิดครับ บ๊ายบายยยย~