Chaos Zero Nightmare เคล็ดลับการสร้างทีมที่แข็งแกร่ง
เกม Chaos Zero Nightmare พัฒนาโดยบริษัท Super Creative และจัดจำหน่ายโดย Smilegate Holdings โดยเป็นเกม RPG ฟรี-ทู-เพลย์ที่มาพร้อมกับสไตล์ Cosmic Horror และโครงเรื่องมืดลึกลับอย่างเข้มข้น รูปแบบการเล่นเน้นระบบต่อสู้แบบใช้การ์ดและองค์ประกอบโร้กไลก์ (roguelike) ที่ผู้เล่นจะต้องปรับกลยุทธ์การเล่นในทุกครั้งที่เริ่มใหม่ และมีภาพกราฟิกแบบ 2 D พร้อมเสียงพากย์เต็มรูปแบบ เพิ่มอรรถรสให้กับเรื่องราวที่ดาร์กและสุดท้าทาย

เราจะมาวิเคราะห์กันว่า ยูนิตไหนโดดเด่นที่สุดในช่วงเปิดเกม ความสามารถเสริมกันแบบไหนที่ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น และทีมคอร์แบบใดที่เหมาะที่สุดในการพาคุณผ่านคอนเทนต์ช่วงต้นและกลางเกมได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลทั้งหมดที่นี่อาจมีการปรับเปลี่ยนสกิลหรือค่าสเตตบางอย่างเล็กน้อยเมื่อเกมเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการ ตัวอย่างเช่น มีข่าวลือเกี่ยวกับการปรับตัวเลขของ Rin เล็กน้อย แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด ดังนั้นเราจะยึดตามข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดที่มีอยู่ในตอนนี้

Mei Lin เน้นการทำคอมโบต่อเนื่องอย่างลื่นไหล
การจัดการ Ember (พลังไฟ) และการรักษาจังหวะการบุกไม่ให้หยุดชะงัก เธอสามารถวนการโจมตีของตัวเอง ใช้ Ember เพื่อปล่อยพลังโจมตีรุนแรง และรีไซเคิลสกิลพื้นฐานให้กลายเป็นการ์ดที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให้เธอสามารถรักษาความกดดันต่อศัตรูได้แทบไม่สิ้นสุดเมื่อเครื่องติดแล้ว

สไตล์การเล่นของเธอให้รางวัลกับผู้เล่นที่บริหารจัดการการ์ดได้ดี การรู้ว่าการ์ดของคุณอยู่ตรงไหน (ในมือหรือในสุสาน) คือกุญแจสำคัญในการต่อคอมโบอย่างต่อเนื่อง เมื่อจัดชุดให้เหมาะสม เม่ยหลินจะให้ความรู้สึกที่รวดเร็ว คล่องตัว และเล่นได้อย่างสนุกสุด ๆ
ทีมที่เหมาะที่สุดสำหรับ Mei Lin
1.Mei Lin + Rei + Nia
- Rei ช่วยเพิ่มพลังให้กับสกิลที่ใช้ค่าพลังน้อยหรือไม่ใช้เลย ทำให้เข้ากับสไตล์การเล่นแบบวนสกิลของ Mei Lin ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- Nia เติมขวัญกำลังใจและสามารถร่ายการ์ดพลังสูงได้ฟรี ทำให้คอมโบดำเนินต่อเนื่อง
- ทีมนี้ให้ DPS สูงมาก พร้อมจังหวะการเล่นที่ลื่นไหลและมีอัตราการโจมตีต่อเนื่องเกือบตลอดเวลา
2.Mei Lin + Veronica (หรือ Selena) + Nia / Orlea
- Veronica ทำหน้าที่เป็นซับ DPS วางป้อมยิง (Ballista) ที่สร้างดาเมจพื้นหลังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ Mei Lin ยังคงบุกอย่างดุดัน
- Selena เป็นอีกตัวเลือกที่แข็งแกร่ง สามารถติด Mark และทำให้เกิดการโจมตีต่อเนื่อง (Follow-up) เพื่อเพิ่มจำนวนคอมโบ
- Nia ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจและเล่นการ์ดฟรี ทำให้การไหลของเกมรุกในทีมลื่นไหล
- เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบการเล่นแบบ ทีมบูสต์เร็วและประสานจังหวะอย่างลงตัว
3.Mei Lin + Magna + Nia
- ตัวเลือกแนวป้องกันมากขึ้น เน้นความปลอดภัยและการอยู่รอดแทนที่จะบุกเต็มพลัง
- Magna มอบโล่ การสวนกลับ และดีบัฟ Vulnerability พร้อมสร้าง Crystallization ผ่านสกิล Ice Wall Epiphany ให้การป้องกันที่มั่นคงในแต่ละเทิร์น
- Nia เสริมขวัญกำลังใจและความสามารถอเนกประสงค์ ช่วยให้ Mei Lin รักษาความต่อเนื่องได้แม้ในศึกที่ยาก
- เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการทีมแบบ มั่นคง เล่นสบาย ไม่ต้องเครียด แต่ยังคงดาเมจดีอยู่
ตัวเลือกเสริม: Orlea
- Orlea (Ora) สามารถแทนหรือจับคู่กับ Nia เพื่อเพิ่มการเก็บการ์ดและขยายสเกลดาเมจ
- แต่ควรระวังอย่าให้มีการ์ดเกิน 10 ใบในมือ เพราะ Mei Lin ต้องการการหมุนการ์ดที่ลื่นไหลเพื่อรักษาคอมโบอย่างต่อเนื่อง

Kayron จ้าวแห่งความว่างเปล่าและการควบคุมพลังงาน
เคย์รอนเป็นตัวละครสาย เสี่ยงสูงแต่ผลตอบแทนสูง ที่เน้นไปที่กลไก Void (ความว่างเปล่า) ของเขาโดยเฉพาะ ชุดสกิลของเขาจะสร้างการ์ด Void อย่างต่อเนื่อง ซึ่งโดยปกติเป็นเพียงการ์ดเปล่าที่ไม่มีประโยชน์ แต่เคล็ดลับคือ ความสามารถหลายอย่างของเขาจะยิ่งรุนแรงขึ้นตามจำนวนการ์ด Void ที่คุณสร้าง ทิ้ง หรือใช้หมดในระหว่างการต่อสู้

พูดง่าย ๆ คือ ยิ่งคุณใช้การ์ดมากเท่าไร เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น เคย์รอนโดดเด่นในด้านการสลับการ์ดอย่างต่อเนื่อง การทิ้งการ์ด และการกำจัดการ์ด เปลี่ยนสิ่งที่ดูเหมือน ขยะการ์ด ให้กลายเป็นพลังทำลายล้างมหาศาล
ทีมที่เหมาะที่สุดสำหรับเคย์รอน
1.Kayron + Rei + Mika
- Rei มีความสามารถในการเพิ่มพลังให้สกิลที่ใช้พลังงาน 1 หรือ 0 ซึ่งเข้ากันโดยตรงกับการ์ด Void ของเคย์รอน เมื่อคุณทำให้มันสามารถเล่นได้
- Mika ช่วยฟื้นฟูพลังงาน (AP) และฮีล ทำให้เคย์รอนสามารถสแปมการ์ดได้อย่างต่อเนื่อง
- ทั้งคู่ช่วยให้เครื่องยนต์ของเคย์รอนทำงานได้ไม่หยุด: Rei เพิ่มพลังการโจมตี ส่วน Mika รักษาความต่อเนื่องของจังหวะการต่อสู้
ทีมนี้เรียบง่าย มีประสิทธิภาพ และเหมาะสำหรับผู้เล่นช่วงต้นเกม
2.Kayron + Tressa + Mika
- Tressa เชี่ยวชาญในการ ใช้การ์ดให้หมด (Exhaust) พร้อมสร้างมีดเงาที่ทำให้ศัตรูติดสถานะ Agony (พิษ) และกระตุ้นเงื่อนไข Void ของเคย์รอนไปพร้อมกัน
- สิ่งนี้สร้าง วงจรป้อนกลับที่สมบูรณ์แบบ Tressa ปล่อยการ์ดที่ใช้ทิ้งได้มากมาย ขณะที่ Kayron เปลี่ยนทุกใบที่ถูกใช้หมดให้กลายเป็นพลังทำลายเพิ่ม
- Mika ยังคงเป็นตัวสนับสนุนหลักด้วยพลังฟื้นฟู AP และฮีลต่อเนื่อง
ทีมนี้จะเล่นได้เร็วและรุนแรงกว่าเดิม เน้นแนวทาง ทิ้งแล้วระเบิด ของเคย์รอนอย่างเต็มที่
เคย์รอนคือฮีโร่ที่ เปลี่ยนขยะให้เป็นสมบัติ หรือพูดให้ชัดคือ เปลี่ยนการ์ดเปล่าให้กลายเป็นดาเมจมหาศาล เขาเล่นเร็วแหวกแนว และเติบโตแบบไร้ขีดจำกัดเมื่ออยู่ในทีมที่เน้นการทิ้งการ์ด ถ้าคุณชอบการจัดการทรัพยากรเชิงกลยุทธ์และชอบเห็นตัวเลขดาเมจพุ่งกระฉูด เคย์รอนคือหนึ่งในตัว DPS ที่คุ้มที่สุดที่ควรรีหามาเล่นตั้งแต่ต้นเกม

Hugo นักสู้คลั่งแห่งบลีด (The Berserker of Bleed)
ฮิวโกเป็นหนึ่งในตัวละครที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็น อัจฉริยะด้านกลยุทธ์ หรือ นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าบิลด์ของคุณออกมาเป็นยังไง จุดเด่นของเขาคือระบบ Hunt Commands ซึ่งเป็นกลไกสะสมที่ทำให้เขาสามารถโจมตีต่อจากเพื่อนร่วมทีมได้โดยอัตโนมัติ

ทุกครั้งที่ฮิวโกสะสม Hunt Stack ได้ เขาจะเก็บพลังสำหรับการ ตามโจมตี เอาไว้ เมื่อใดก็ตามที่เพื่อนร่วมทีมโจมตี เขาจะใช้หนึ่งสแตคเพื่อเข้าร่วมโจมตีในทันที หากจัดทีมและบิลด์ถูกทาง เขาสามารถต่อคอมโบโจมตีได้ไม่หยุด ทำให้ศัตรูแทบไม่มีโอกาสหายใจ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ ถ้าทีมของคุณไม่โจมตีบ่อยพอ ศักยภาพของฮิวโกจะถูกทิ้งเปล่าเขาต้องการเพื่อนร่วมทีมที่มีจังหวะการโจมตีเร็วและต่อเนื่อง เพื่อให้ระบบ Hunt ของเขาทำงานได้เต็มที่
ทีมที่เหมาะที่สุดสำหรับฮิวโก
1. Hugo + Tressa + Nia (ทีมหลัก / แนะนำที่สุด)
ทีมนี้แทบจะ เกิดมาเพื่อฮิวโก เลย
- Tressa สาดสนามรบด้วย Shadow Daggers และการโจมตีรวดเร็ว ทำให้ฮิวโกได้ตามโจมตีแทบทุกครั้ง
- Nia ช่วยเสริมทั้งขวัญกำลังใจ ฟื้นฟู HP และเล่นการ์ดอัตโนมัติ ทำให้ฮิวโกสะสมและใช้ Hunt stacks ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เสียเทิร์น
ทั้งสามคนสร้างวงจรต่อเนื่องของ โจมตี → ฮีล → โจมตีต่อเนื่อง ที่ราบรื่นและคงที่ที่สุด
นี่คือทีมที่ มั่นคงสุดและพร้อมใช้ตั้งแต่ต้นเกม
2. Hugo + Mei Lin (ทีมทดลอง / บิลด์แนวทฤษฎี)
ทีมนี้คือสาย เล่นของแรง สำหรับสายทดลอง
- Mei Lin มีสกิลหมุนการ์ดที่ใช้แล้วกลับมาใหม่และต่อคอมโบได้ไวมาก
- ถ้าปรับบิลด์ของฮิวโกให้เน้นพลังโจมตีมากกว่าการสะสม Hunt เม่ยหลินสามารถกระตุ้นให้เขาโจมตีซ้ำได้รัว ๆ สร้างฝนคอมโบมหาศาล
ถึงจะเสี่ยงกว่าและพึ่งจังหวะกับดวง แต่ถ้าทำได้ลงตัว ผลลัพธ์จะทรงพลังสุด ๆ นี่คือบิลด์ สายทดลองครัว สำหรับคนที่ชอบลองของ
3. Hugo + Nia หรือ Mika + ตัว DPS อิสระ (ทีมยืดหยุ่น)
ระบบ Hunt ของฮิวโกทำให้เขาเข้ากับหลายทีมได้ง่าย
- ใช้ Nia หรือ Mika สำหรับซัพพอร์ตและฟื้นฟู
- ช่องสุดท้ายเลือกตัว DPS ที่โจมตีเร็วเพื่อให้ฮิวโกได้ตามโจมตีบ่อย ๆ
นี่คือทีม ไพ่โจ๊กเกอร์ ใส่ใครที่เข้ากับสไตล์คุณได้เลย แล้วดูว่าจังหวะไหนทำดาเมจได้ดีที่สุด
ฮิวโกโดดเด่นที่สุดในทีมที่มีจังหวะการโจมตีรวดเร็วและมีผู้โจมตีหลายคน เขาเล่นสนุก ฉูดฉาด และให้รางวัลกับผู้เล่นที่จัดลำดับการโจมตีอย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเล่นสายมั่นคงแบบ Tressa-Nia หรือสายบ้าคลั่งทดลองกับ Mei Lin, ฮิวโก คือตัวทำดาเมจที่ยืดหยุ่นและสนุกที่สุดในรายชื่อเปิดตัวของ Chaos Zero Nightmare

Luke ปีศาจความเร็วแห่งความโกลาหล
ลุคเป็นตัวละครที่เริ่มต้นได้ช้าเล็กน้อย ช่วงต้นเกมเขาพึ่งพา คริติคอล (Critical) อย่างมาก และหากไม่มีแหล่งเพิ่มอัตราคริติคอลที่มั่นคง การ์ดหลักบางใบของเขาก็แทบจะใช้งานไม่ได้เลย ตัวอย่างเช่น การ์ดหลักใบหนึ่งของเขาจะโจมตี 3 ครั้ง แต่จะสร้าง กระสุน (Bullets) ได้ก็ต่อเมื่อโจมตีติดคริติคอลเท่านั้น ถ้าไม่ติดคริติคอลก็จะไม่มีกระสุน และถ้าไม่มีกระสุนก็จะไม่สามารถสร้างดาเมจแรง ๆ ได้
สิ่งนี้ทำให้ลุคเล่นได้ค่อนข้างติดขัดในช่วงต้นเกม เพราะทั้งชุดสกิลของเขาหมุนรอบการ ใช้ และ สร้าง กระสุน คุณมักจะต้องพึ่งเพื่อนร่วมทีมช่วยอุดช่องว่างนี้ไปก่อน จนกว่าจะปลดล็อกโน้ดพรสวรรค์ (Talent Node) ที่แข็งแกร่งขึ้นและอุปกรณ์ที่ดีกว่าในภายหลัง

เมื่อถึงระดับประมาณ เลเวล 40–50 ลุคจะได้โน้ดพรสวรรค์ที่เพิ่มอัตราคริติคอล +10% ซึ่งช่วยได้บ้าง แต่ก็ยังต้องใช้เวลาและวัสดุในการอัปเกรด ส่วนอาวุธบางชิ้นก็สามารถเพิ่มอัตราคริติคอลได้เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นของหายากหรือระดับตำนาน ทำให้ไม่สามารถพึ่งพาได้ตลอดเวลา
ทีมที่เหมาะที่สุดสำหรับลุค
1.Luke + Lucas + Mika (ทีมแกนกระสุน)
- Lucas เป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบ เพราะทั้งคู่ใช้กลไกการสร้างกระสุนที่คล้ายกัน
Lucas ยังสามารถใส่ดีบัฟอย่าง Slow, Fragile, และ Vulnerability ทำให้ศัตรูรับดาเมจมากขึ้น และช่วยให้ลุคสะสมกระสุนได้เร็วขึ้น - Mika คือหัวใจของทีม เพราะเธอช่วยสร้าง AP (Action Points) ซึ่งจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากการ์ดกระสุนส่วนใหญ่ของลุคใช้ 1 AP ต่อใบ และคุณจะอยากเล่นหลายใบต่อเทิร์นเพื่อเร่งดาเมจ
- ทีมนี้เน้นการเชื่อมคอมโบด้วยการ์ดกระสุนและสะสมตัวคูณดาเมจ แม้คริติคอลจะไม่สม่ำเสมอ แต่ดีบัฟของ Lucas ก็ช่วยให้ดาเมจโดยรวมของลุคยังคงน่าประทับใจ ส่วน Mika จะทำให้ระบบ AP ของคุณลื่นไหลตลอดเวลา
2.Luke + Rinoa + Mika (ทีมสแปมกระสุนทางเลือก)
- กลไก Dirge Bullet ของ Rinoa เข้ากันได้อย่างเป็นธรรมชาติกับสกิลของลุค ไม่ว่าคุณจะเล่นหรือเก็บ Dirge Bullet ไว้ มันก็ยังนับเป็นการโจมตีเมื่อจบเทิร์น ซึ่งเหมาะกับการกระตุ้นเอฟเฟกต์สะสมของลุค
- เช่นเคย Mika ยังคงสำคัญสำหรับการรักษา AP เพราะทั้งลุคและเรโนอาจะใช้ AP จำนวนมากจากการโจมตีต่อเนื่อง
- ทีมนี้จะเล่นช้ากว่าเวอร์ชัน Lucas เล็กน้อย แต่จะมีความยืดหยุ่นและเสถียรมากกว่า เพราะ Rinoa สามารถทำดาเมจได้แม้มือคุณจะเต็มไปด้วยการ์ดกระสุน
หมายเหตุเกี่ยวกับ Orlea
บางคนแนะนำให้จับคู่ Orlea กับลุคเพราะเธอมีบัฟเพิ่มอัตราคริติคอล แต่ในช่วงต้นเกมถือว่า ไม่คุ้มค่า บัฟคริติคอลของ Orlea จะปลดล็อกได้ในโน้ดพรสวรรค์สุดท้ายของเธอเท่านั้น และให้เพียงประมาณ 6% ซึ่งถึงแม้จะเพิ่มขึ้นเมื่อเลเวลสูงสุด ก็ยังถือว่าไม่น่าเชื่อถือในช่วงต้นเกมอยู่ดี เมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายเกมและคุณอัปตัวละครหลายตัวจนเต็มแล้ว Orlea อาจจะกลายเป็นซัพพอร์ตที่ใช้ได้ แต่ในช่วงเริ่มต้นเกม ยังไม่แนะนำให้ใช้เธอร่วมกับลุค

Renoa เมจสนับสนุนแห่งสายน้ำ (The Flow Support Mage)
เรโนอาเป็นยูนิตที่ดีที่สุดสำหรับการ รีโรล เพื่อเน้นการสร้างความเสียหายแบบ Burst ในโหมด Chaos Zero Nightmareรูปแบบการเล่นของเรโนอาหมุนรอบกลไกที่เรียกว่า Dirge Bullet โดยจุดเด่นคือเธอสามารถเล่นได้ 2 สไตล์ ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากใช้ Dirge Bullet เพื่อสร้างดาเมจโดยตรง หรือจะปล่อยให้มันทำงานอัตโนมัติเมื่อจบเทิร์นของคุณ

หากคุณเลือกเล่น Dirge Bullet ด้วยตัวเอง จะเน้นการสร้างความเสียหายแบบระเบิดและการเล่นเชิงรุก แต่ถ้าคุณเลือก ถือมันไว้ในมือ และปล่อยให้มันทำงานอัตโนมัติเมื่อจบเทิร์น ก็จะได้สไตล์ที่เน้น การตามจังหวะอัตโนมัติ (passive follow-up) และการหมุนเวียนทีมที่ราบรื่นกว่า ทั้งสองสไตล์จะต้องการทีมสนับสนุนที่ต่างกัน
ทีมที่ดีที่สุดสำหรับเรโนอา
1.เรโนอา + เรย์ (Rei) + มิกะ (Mika) Active Dirge Build
เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการเล่น Dirge Bullet ด้วยตนเอง เพื่อสร้างความเสียหายเดี่ยวแบบแรงสุด ๆ
- เรย์ (Rei) ช่วยเพิ่มพลังให้กับการ์ดที่ใช้ค่าพลัง 1 หรือ 0 ตามค่า Epiphany ของเธอ ซึ่งช่วยเพิ่มพลังโจมตีของกระสุน Dirge ของเรโนอาโดยตรง
- มิกะ (Mika) ให้การฟื้นฟู AP (พลังการ์ด) ซึ่งจำเป็นเพราะคุณจะต้องใช้การ์ดหลายใบต่อเทิร์น
- ทีมนี้ทำให้เรโนอาสามารถเล่นเชิงรุกได้เต็มที่ ใช้ Dirge Bullet ต่อเนื่องเพื่อสร้างจังหวะการโจมตีแบบ burst turn รวดเร็ว
2.เรโนอา + เนีย (Nia) + มิกะ (หรือ แคสเซียส Cassius) — Passive Dirge Build
สไตล์นี้เน้นการ ปล่อยให้ Dirge Bullet ทำงานอัตโนมัติเมื่อจบเทิร์น เพื่อสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องใช้ AP มาก
- เนีย (Nia) ช่วยเพิ่มพลังขวัญ (morale boosts) และเล่นการ์ดอัตโนมัติ ทำให้จังหวะของทีมลื่นไหลและต่อเนื่อง
- แคสเซียส (Cassius) สามารถแทนที่เนียได้ หากคุณต้องการควบคุมเด็คมากขึ้น — อัลติเมตของเขา Joker ช่วยให้คุณค้นหาการ์ดสำคัญ เช่น อัลติของเรโนอา หรือ Black Lotus เพื่อให้แน่ใจว่ามีเครื่องมือทำดาเมจพร้อมใช้เสมอ
- ความสามารถในการ สับเด็คและจั่วการ์ดใหม่ ของแคสเซียสยังช่วยป้องกันปัญหามือเต็ม ทำให้การหมุนเวียนการ์ดคงที่และมีประสิทธิภาพ

Rin ตัวกระตุ้นแห่งความว่างเปล่า
Rin เป็น DPS แบบโจมตีเดี่ยวที่ทรงพลัง ซึ่งโดดเด่นในสถานการณ์ 1v1 โดยเฉพาะเมื่อเธออยู่ใน Dark Stance กลไกสำคัญของเธอที่จะปลดล็อกศักยภาพแท้จริงของสกิลทั้งหมด ตอนแรกเธออาจดูจัดการยาก แต่เมื่อคุณเริ่มจับจังหวะการรักษา Dark Stance ได้แล้ว เธอกลายเป็นแหล่งความเสียหายที่ต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

คุณสามารถปลดล็อกการเปิดใช้งาน Dark Stance เพิ่มเติมผ่าน talent ที่สาม ของเธอ (ประมาณเลเวล 30) ซึ่งไม่ต้องใช้เวลานาน อาจใช้เวลาสองสามวันของการเล่นปกติ เมื่อเปิดใช้งานแล้ว การ์ดโจมตีหนักหลายใบของเธอจะได้รับเอฟเฟกต์เสริมในขณะอยู่ใน Dark Stance: บางใบสร้างความเสียหายเพิ่ม บางใบใช้ AP น้อยลง และบางใบให้การโจมตีพิเศษ Ultimate ของเธอยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือ burst ที่รุนแรงที่สุด โดยสเกลขึ้นตามจำนวนสกิลการ์ดที่คุณถืออยู่ สูงสุด 5 ใบซึ่งส่งผลอย่างมากต่อความร่วมมือในทีม
ทีมที่เหมาะกับ Rin
1.Rin + Nia + Cassius / Orlea
- Orlea ช่วยเพิ่มพลัง Ultimate ของ Rin โดยเก็บสกิลการ์ดและสนับสนุนด้วยโล่หรือฮีล
- Nia เพิ่มขวัญกำลังใจและความเสียหาย
- Cassius เป็นตัวเลือกสลับที่ดีสำหรับการควบคุมการ์ดและเรียกสกิลสำคัญผ่านกลไก Joker
2.Rin + Nia + Magna / Maribell
- เน้น synergy ของแทงค์และการสร้างสกิลเพื่อเสริมพลัง Ultimate ของ Rin
- Magna ให้ counter แบบ AoE, โล่ และ debuff Vulnerability
- Maribell เป็นเหมือน Magna เวอร์ชันสี่ดาว ขยายผลกับโล่และใช้ Epiphany แปลงการ์ดเป็นสกิล
- โดยรวมปลอดภัยและเน้นป้องกัน ให้ Rin ปล่อย burst ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลเรื่อง sustain
Rin เป็นตัว DPS ที่ทรงพลังมาก เหมาะกับคนที่ชอบ burst DPS แบบเน้นตัวเดียว เธอให้รางวัลกับการจัดการการ์ดอย่างชาญฉลาดและการรักษา stance และเมื่อ Dark Stance ของเธอทำงานเต็มที่ เธอแทบจะหยุดไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะชอบ synergy อันสง่างามของ Orlea หรือความปลอดภัยแบบเน้นพลังของ Magna ความยืดหยุ่นของ Rin ทำให้เธอเป็นตัว reroll ที่ดี หากคุณต้องการ DPS ที่ตรงไปตรงมาแต่ให้ผลตอบแทนสูง

Khalipe ระเบิดสวรรค์ (The Celestial Nuke)
คาลิเปอาจดูซับซ้อนเมื่ออ่านจากข้อมูล แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอใช้งานง่ายมาก และทรงพลังสุด ๆ คิดซะว่าเป็นตัวที่ให้ ดาเมจฟรี โล่ฟรี และตัวเลขดาเมจใหญ่ ๆ วิบวับ ๆ เธอเป็นหนึ่งในตัวที่คุ้มค่าสุดในการ รีโรล ตอนเปิดตัวเกมเลยก็ว่าได้ ก่อนจะไปพูดถึงการจัดทีม ควรรีบอัป พรสวรรค์ที่ 3 ของเธอก่อน เพราะจะปลดล็อกโบนัสที่เปลี่ยนการโจมตีพื้นฐานครั้งที่สองให้กลายเป็นการโจมตีแบบ AoE ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการเคลียร์ศัตรูเป็นกลุ่มได้อย่างมาก

พลังของเธออยู่ที่ ซินเนอร์จี้แห่งสวรรค์ (Celestial synergy) การ์ดประเภท Celestial จะทำงานอัตโนมัติเมื่อคุณใช้การ์ดอื่นที่มีค่า AP ตั้งแต่ 2 ขึ้นไป หมายความว่าคุณสามารถใช้สกิลแรง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การ์ด Celestial ของคุณก็จะทำงานฟรีไปพร้อมกัน สร้างความได้เปรียบอย่างต่อเนื่อง การ์ดซิกเนเจอร์ของเธอชื่อว่า Vulture จะทำให้ศัตรูติดสถานะ Silver Veil และสามารถอัปเกรดสถานะนี้ได้ เมื่อสะสมครบ 3 ชั้น การโจมตี Vulture จะอัปเกรดเป็นเวอร์ชันที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม
ทีมที่ดีที่สุดสำหรับคาลิเป
1. คาลิเป + มิกะ + แมกนา (หรือ มาริเบล)
- แมกนา มอบโล่ฟรีและมีการ์ดที่ใช้ค่า AP สูง ซึ่งช่วยกระตุ้นเอฟเฟกต์ Celestial ของคาลิเปได้บ่อย
- มาริเบล สามารถแทนแมกนาได้ มีการป้องกันแบบโต้กลับและสร้างโล่ได้เช่นกัน
- มิกะ ช่วยรักษาการไหลของ AP ทำให้สามารถใช้สกิลแพง ๆ ได้ต่อเนื่อง
2. คาลิเป + มิกะ + อาเมียร์ (สายลม / Air)
- ตัวละครสายลมอย่าง อาเมียร์ มักมีแท็ก Celestial เช่นกัน ทำให้สามารถเชื่อมต่อการ์ดได้ต่อเนื่อง
- เมื่อคุณเริ่มใช้การ์ดที่มีค่า AP 2 ขึ้นไป ครึ่งหนึ่งของการ์ดในมือจะถูกกระตุ้นอัตโนมัติ สร้างจังหวะการต่อคอมโบที่ไหลลื่นสุด ๆ
- ท่าไม้ตายของคาลิเปเป็นการโจมตี AoE ที่แรงมาก และจะยิ่งแรงขึ้นตามจำนวนการ์ด Vulture ที่คุณถืออยู่
หากอัปเกรดสาย Epiphany ที่ดึงการ์ด Vulture กลับมาได้ เธอจะสามารถวนคอมโบนี้ได้เรื่อย ๆ เหมือนบูมเมอแรง ทั้งสร้างดาเมจและโล่ไปพร้อมกัน
คาลิเปเป็นตัวที่ เล่นง่าย ทรงพลัง และลื่นไหลมาก เมื่อเริ่มจับจังหวะได้ คุณจะรู้สึกว่าชุดสกิลของเธอ ทำงานเอง ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะทั้งสำหรับผู้เล่นใหม่และผู้เล่นเก่าที่อยากหาตัวทำดาเมจและสร้างโล่ได้ในเวลาเดียวกัน

-
เฟรมเรตสูง ไม่แลค : ดันเจี้ยน บอสโลก กิลด์วอร์ ก็ยังลื่น
-
หลายไอดีเก็บเลเวล : ฝึกตัวละครพร้อมกัน จัดทีมลงดันมีประสิทธิภาพ
-
มาโครออโต้ : เก็บของ ทำเควส ส่งกิลด์คอนทริบิวต์สบาย ๆ
-
อัดคลิป/แคปจอ : บันทึกช่วงเวลามันส์ ๆ แชร์ลงโซเชียลมีเดียได้ทันที
เสน่ห์ของ Chaos Zero Nightmare คือ ทุกตัวละครมีศักยภาพ หากได้รับการจัดทีมและอัปเกรดอย่างเหมาะสม เมต้าอาจเปลี่ยนไปในอนาคต แต่ทีมที่กล่าวมาข้างต้นคือจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการรีโรลหาตัวเมต้า ทดลองคอมโบ หรือแค่เล่นตัวที่คุณชอบก็ตาม
Chaos Zero Nightmare





