Sword of Justice คู่มือเลือกคลาสการต่อสู้ที่ดีที่สุด
Sword of Justice เป็นเกมแนว MMORPG จากค่าย NetEase Games (พัฒนาโดย ZhuRong Studio) ผู้เล่นสามารถเลือกคลาสต่าง ๆ ที่มีสไตล์และทักษะเฉพาะตัว ทำภารกิจ ต่อสู้มอนสเตอร์ ลงดันเจี้ยน และเข้าร่วมศึก PvP ระหว่างผู้เล่น สนามรบในเกมมีทั้งแบบเดี่ยวและทีม ระบบอัปเกรดอาวุธ ชุดเกราะ และสกิลช่วยให้ตัวละครแข็งแกร่งขึ้นอย่างอิสระ เพิ่มความสนุกและความหลากหลายในการเล่น
Sword of Justice เป็นเกมที่เต็มไปด้วยบรรยากาศศิลปะการต่อสู้อันดุเดือด โดยการเลือกคลาสตัวละครจะเป็นสิ่งที่กำหนดรูปแบบการเล่นของคุณ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การต่อสู้ หรือบทบาทของคุณในปาร์ตี้ระหว่างการลงดันเจี้ยนและสู้บอส ในช่วงเปิดให้เล่นแรกเริ่ม เกมมีตัวเลือกทั้งหมด 6 คลาส ซึ่งแต่ละคลาสจะมีจุดเด่น จุดด้อย และจังหวะการเล่นที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีแผนจะเพิ่ม อีก 4 คลาส ในอัปเดตอนาคต ทำให้ผู้เล่นที่ชื่นชอบการเปลี่ยนบทบาทหรือท้าทายตัวเอง จะมีตัวเลือกมากขึ้นเรื่อยๆ
Nightwaker – เงามืดผู้ว่องไว
Nightwaker คือคลาสนักลอบสังหารใน Sword of Justice ที่ใช้อาวุธเป็นดาบคู่ เน้นการสร้างดาเมจระเบิดในเวลาสั้น ๆ ผ่านการโจมตีเป็นคอมโบที่รวดเร็วและการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว จุดเด่นคือค่า คริติคอลสูง, หายตัวได้, และการเข้าทำที่แม่นยำสิ่งที่ทำให้คลาสนี้แตกต่าง คือระบบ Shadow Clone หรือร่างเงาที่สามารถเสริมการโจมตีหรือใช้เพื่อเคลื่อนที่เชิงกลยุทธ์ ทำให้ศัตรูตามอ่านจังหวะได้ยาก และยิ่งเพิ่มความกดดันในการต่อสู้ สรุปง่าย ๆ เล่นเร็ว แรง หายตัวได้ โจมตีแบบโผล่มาแล้วหายไป เป็นเหมือนฝันร้ายของฝ่ายตรงข้าม
- การต่อสู้แบบ PvP, Nightwaker จะโดดเด่นมากในสไตล์ ตีไว-ถอยเร็ว โดยเฉพาะการปะทะแบบทีมเล็กหรือดวลตัวต่อตัว ตัวละครจะพุ่งเข้าไปทำดาเมจชุดใหญ่ใส่เป้าหมาย แล้วถอยออกก่อนที่ศัตรูจะสวนกลับได้ อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนสำคัญ ของคลาสนี้คือ ไม่มีสกิลคุมฝูงชน (CC) มากนัก ไม่มีสกิลป้องกันตัวที่แข็งแกร่ง ถ้าเผลอถูก สตัน หรือ ล้มลง เพียงครั้งเดียว และหลบจังหวะผิด อาจโดนสวนจนพลังชีวิตหมดได้ทันที
- สำหรับการเล่นแบบ PvE, Nightwaker มีดาเมจเดี่ยวที่แรงมาก เหมาะกับการล้มบอสหรือเก็บเป้าหมายตัวเดียว แต่จะค่อนข้าง พึ่งพาตัวฮีล อย่าง Sylph เพื่อให้ยืนได้นานขึ้นในไฟต์
Ironclad – กำแพงเหล็กที่ไม่มีวันแตก
Ironclad คือสาย แทงค์ ประจำเกม Sword of Justice ใช้อาวุธเป็น สนับมือเหล็ก ขนาดใหญ่ ทำหน้าที่คอยรับดาเมจแทนเพื่อน และควบคุมศัตรูในทีมไฟต์ เรียกได้ว่าเป็นคลาสที่ทุกปาร์ตี้จำเป็นต้องมี โดยเฉพาะในดันเจี้ยนยาก ๆ เพราะ Ironclad เชี่ยวชาญทั้งการ ดึงความสนใจมอนสเตอร์ (Aggro), เพิ่มเกราะป้องกันให้ทีม และสกิลคอนโทรลฝูงศัตรู จุดเด่นของ Ironclad คือความสามารถในการ ควบคุมตำแหน่งการเคลื่อนที่ของศัตรู และ ดูดซับความเสียหายระดับหนัก ที่ถ้าตกใส่ตัวบาง ๆ อาจจะตายได้ทันที
- บทบาทใน PvE Ironclad เรียกได้ว่า ขาดไม่ได้ ในช่วงเกมต้นจนถึงท้าย โดยเฉพาะในดันเจี้ยนที่บอสตีแรงมาก หากไม่มีแทงค์ที่อึดพอ ทีมจะเล่นได้ลำบากอย่างเห็นได้ชัด การมี Ironclad อยู่ในปาร์ตี้จะช่วยให้การผ่านดันและลุยคอนเทนต์สูง ๆ เป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก
- บทบาทใน PvP ใน PvP, Ironclad ถือว่าท็อปคลาสด้าน การหยุดคู่ต่อสู้และปกป้องเพื่อนร่วมทีม ด้วยคอมโบคอนโทรลต่อเนื่อง และสกิลซัพพอร์ต เช่น Rescue: ช่วยดึงหรือป้องกันเพื่อนที่กำลังตกอยู่ในอันตราย Lion’s Roar: สกิลตะโกนป้องกันพร้อมคอนโทรลพื้นที่ สามารถล้างบัฟหรือหยุดศัตรูตัวสำคัญได้ บอกเลยว่าสกิลเหล่านี้สามารถ พลิกเกมได้ในชั่วพริบตา
Bloodstorm – นักรบหอกผู้รวดเร็วและดุดัน
Bloodstorm เป็นคลาสที่ผสมผสานทั้งการรุกและการป้องกันเข้าไว้ด้วยกัน โดยเน้นการโจมตีระยะประชิดที่ต่อเนื่องรวดเร็ว พร้อมความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองระหว่างต่อสู้ อาวุธหลักคือ หอก ซึ่งสามารถคอมโบท่าต่าง ๆ ตามจังหวะการกดของผู้เล่น ทำให้รูปแบบการต่อสู้ของคลาสนี้ ลื่นไหลและมีลูกเล่นสูง หนึ่งในจุดเด่นคือ สกิลขี่ม้าพุ่งชนศัตรู ที่ช่วยเพิ่มความอลังการและความเร็วในการเข้าปะทะ เรียกได้ว่าเป็นคลาสที่มีสไตล์การต่อสู้ที่ทั้งเท่และดุดัน
- โหมด PvE Bloodstorm มีประสิทธิภาพที่ดีในการควบคุมศัตรูและทำดาเมจวงกว้าง แม้ว่าค่าดาเมจโดยรวมจะถูกปรับลดลงเล็กน้อยในแพทช์ล่าสุด แต่ก็ยังเป็นคลาสที่เหมาะกับการลุยคนเดียว เพราะมีทั้งการฟื้นฟูและความคล่องตัวสูง อย่างไรก็ตาม ในการลงดันหรือเรดที่ต้องการตำแหน่งเฉพาะทาง Bloodstorm อาจทำผลงานได้ไม่เด่นเท่าคลาสที่ออกแบบมาเฉพาะด้าน
- ส่วนใน PvP นั้น Bloodstorm ถือว่า อันตรายมาก เมื่อเล่นเชิงรุก เพราะมีทั้งจังหวะคอมโบล็อกเป้าหมายและระเบิดดาเมจช่วงสั้นได้ดี
เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบสไตล์บู๊ลุยดุดัน แต่ยังคงมีความอึดและการเอาตัวรอดที่ดี แม้จะต้องใช้เวลาในการฝึกคอมโบและจังหวะโจมตี แต่เมื่อเล่นคล่องแล้ว การพุ่งแทงศัตรูกลางสนามรบจะเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่สะใจที่สุด
Sylph – เส้นชีวิตของสนามรบ
Sylph คือคลาสสายซัพพอร์ตและฮีลหลักเพียงหนึ่งเดียวในเกม Sword of Justice โดยใช้ ริบบิ้นผ้าไหม เป็นอาวุธ จุดเด่นของคลาสนี้คือการฟื้นฟูพลังชีวิตให้เพื่อนร่วมทีม ลบสถานะ Debuff และเพิ่มพลังโจมตีให้ทีมด้วยสกิล Buff ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโหมดไหน ตั้งแต่ อารีน่า 3v3 ไปจนถึงสงครามกิลด์ขนาดใหญ่ การมี Sylph อยู่ในทีมแทบเรียกได้ว่า จำเป็น เลยทีเดียว
- โหมด PvE (ลงดัน/บอสเรด) Sylph จะช่วยให้ทีม อยู่รอดได้นานขึ้น และทำให้เคลียร์ดันได้ลื่นขึ้น นอกจากนี้ Sylph ยังสามารถสลับระหว่างโหมด ฮีล และ โหมดโจมตี ได้ แต่โดยส่วนมากโหมดโจมตีจะใช้เวลาลงดันคนเดียวเท่านั้น
- บทบาทใน PvP เพียงแค่มี Sylph อยู่ฝ่ายเดียว ก็สามารถเป็นตัว ชี้เป็นชี้ตายของทีม ได้เลย เพราะสกิลฮีลต่อเนื่องและคุมสถานะ (CC) ของคลาสนี้ช่วยให้ทีม ยืนสู้ได้นานกว่าคู่ต่อสู้แบบชัดเจน
นี่คือคลาสที่เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบ สนับสนุนทีม ช่วยให้เพื่อนอยู่รอด และเป็น “รากฐานของชัยชนะ” แม้ว่า Sylph จะไม่ได้มีดาเมจ หวือหวา แต่ความรู้สึก ช่วยทีมรอดในจังหวะสำคัญ เป็นความฟินที่คลาสอื่นให้ไม่ได้
Numina – จอมเวทย์อัญเชิญอาคม
Numina เป็นคลาสที่ผสมผสานการโจมตีระยะไกลด้วยเวทมนตร์เข้ากับการอัญเชิญอสูร โดยใช้พลังต้องสาปเพื่อควบคุมพื้นที่การรบและชะตากรรมของศัตรู คลาสนี้ใช้อาวุธคู่ใจคือ Toxling และสามารถเรียกซัมมอนชั่วคราวมาช่วยต่อสู้เคียงข้างได้ Numina มีสกิลหลากหลายทั้ง สร้างโล่ป้องกัน, ดีบัฟลดการฟื้นฟู, และ สกิลโจมตีพื้นที่แบบต่อเนื่อง ทำให้เป็นคลาสที่มีทั้งความอึดและพลังโจมตีสูงไปพร้อมกัน
- โหมด PvE Numina โดดเด่นอย่างมากในดันเจี้ยนและเรด เพราะสกิลดีบัฟและบัฟสนับสนุนทีมสามารถช่วยเพิ่มดาเมจรวมของปาร์ตี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ
- โหมด PvP มักจะถูกโฟกัสและโดนจัดการก่อน เนื่องจากมีทั้งดาเมจและประโยชน์ต่อทีม ทำให้ การยืนตำแหน่งและการอ่านจังหวะการต่อสู้เป็นสิ่งสำคัญ ผู้เล่นต้องสลับระหว่างการเล่นเชิงรุกและการตั้งรับให้เหมาะกับสถานการณ์
หากคุณชื่นชอบการต่อสู้ที่เน้นการวางแผน ใช้พลังเวทผสมผสานกับความสามารถสนับสนุนทีม Numina เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม คลาสนี้เล่นไม่ยากสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ก็ยังมีความลึกให้ชำนาญสำหรับผู้เล่นระดับสูงเช่นกัน
Celestune – นักธนูผู้ผสานศิลป์แห่งธาตุ
Celestune เป็นคลาสที่ใช้พลังธาตุผ่าน ดาบ และ พิณ ผสมผสานความงดงามของท่วงทำนองเข้ากับการโจมตีที่แม่นยำรุนแรง เป็นคลาสสาย DPS ระยะไกล หลักของเกม Sword of Justice โดดเด่นด้วยสกิล โจมตีวงกว้าง (AoE) และคอมโบธาตุที่สร้างดาเมจระเบิดได้อย่างรุนแรง Celestune สามารถ สลับธาตุได้ 3 รูปแบบ ได้แก่
- ไฟ – เน้นดาเมจหนักและจบศัตรูอย่างรวดเร็ว
- น้ำแข็ง – ควบคุมศัตรู ชะลอการเคลื่อนไหว
- สายลม – เน้นความเร็วและโจมตรีต่อเนื่อง
ทำให้คลาสนี้สามารถ ปรับบทบาทให้เข้ากับสถานการณ์ในสนามรบ ได้อย่างอิสระ
Celestune เหมาะกับผู้เล่นแบบไหน?
- ชอบโจมตีระยะไกล
- ชอบเอฟเฟกต์สกิลสวย ๆ และเล่นอย่างมีจังหวะ
- เน้นอ่านเกมและวางตำแหน่งตัวเองดี ๆ
อย่างไรก็ตาม Celestune ค่อนข้างบอบบางเมื่อถูกเข้าประชิด หากยืนตำแหน่งพลาดอาจโดนปิดจังหวะได้ง่าย แต่ถ้าอยู่ในมือของผู้เล่นที่มีทักษะ สามารถกวาดล้างศัตรูทั้งกลุ่มได้ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันตอบโต้
เฟรมเรตสูง ไม่แลค – รบกิลด์พันคน บอสโลกก็ยังลื่น
หลายไอดีพร้อมกัน – เก็บเลเวล/ลงดันมีประสิทธิภาพ
มาโครออโต้ – เก็บของ ทำเควส กิลด์คอนทริบิวต์ง่าย ๆ
อัดคลิป/แคปจอ – แชร์โมเมนต์มันส์ลงโซเชียลมีเดียได้ทันที
SWORD OF JUSTICE
