บล็อก/

คู่มือการเล่นเกม

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

2025-11-30

Warframe เป็นเกมออนไลน์แนว Action RPG + Sci-Fi Shooter ที่พัฒนาโดย Digital Extremes และโดดเด่นด้วยระบบการต่อสู้ที่รวดเร็ว ลื่นไหล และปรับแต่งได้ลึกมาก ผู้เล่นจะรับบทเป็น Tenno นักรบจากอดีตที่ควบคุม “Warframe” ซึ่งเป็นเกราะต่อสู้ทรงพลังที่มีสกิล 4 อย่างแตกต่างกันไปในแต่ละเฟรม ทำให้สไตล์การเล่นหลากหลาย ทั้งสายยิง สายประชิด สายคุมฝูงชน ไปจนถึงสายสนับสนุน

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

สิ่งที่ทำให้ Warframe ยืนหนึ่งมานานกว่า 10 ปี คือ จำนวนคอนเทนต์ที่อัปเดตต่อเนื่อง ตั้งแต่ระบบ Open World, Railjack, Duviri Paradox, เควสต์เนื้อเรื่องระดับภาพยนตร์ และ Warframe ใหม่ ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้การจัด Tier List ต้องปรับตามเมต้าอยู่เรื่อย ๆ

Tier List ด้านล่างนี้ถูกจัดจาก ประสิทธิภาพการใช้งานจริง ทั้งคอนเทนต์ทั่วไป, Steel Path, Arbitrations, Eidolon Hunt, Boss Fight และ Endgame ทั้งหมด เพื่อให้ผู้เล่นเลือกเฟรมที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับการเล่นในอัปเดตล่าสุด

Warframe Tier List อัปเดตล่าสุด

แบ่งระดับเป็น S+, S, A, B, C ตามความสามารถในการเอาตัวรอด ความเร็วในการกำจัดศัตรู ความยืดหยุ่น และความง่ายต่อการใช้งาน

Tier S+ – เฟรมระดับเมต้า ใช้ได้ทุกคอนเทนต์

เฟรมระดับนี้ถือว่า “ไม่ต้องคิดมาก หยิบไปเล่นได้ทุกโหมด” ทั้ง Steel Path, ลงมิชชั่นยาว ๆ, ล่า Eidolon หรือฟาร์มทรัพยากร สามารถสร้างดาเมจ ทำ Crowd Control และมีความอยู่รอดสูงมาก

  1. Revenant Prime

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Revenant เด่นเรื่องความ “ไม่ตาย” จาก Mesmer Skin ที่สะท้อนดาเมจและสตันศัตรู ทำให้รับดาเมจหนัก ๆ ได้แบบสบาย ๆ แม้ใน Steel Path ศัตรูเลเวลสูงมากก็ยังเอาอยู่ เหมาะทั้งมือใหม่ที่ยังอ่านสถานการณ์ไม่ค่อยขาด และสาย Tryhard ที่อยากยืนกลางดงมอนโดยไม่ต้องกลัวล้มง่าย ๆ

ดาเมจหลักมาจากสกิล Danse Macabre ที่ยิงลำแสงแบบ 360 องศา ใส่ม็อดเสริมที่ถูกต้องแล้วสามารถละลายแมพได้รวดเร็ว โดยเฉพาะในภารกิจ Exterminate / Survival ที่มอนเกิดต่อเนื่อง การเล่นจึงค่อนข้างสบาย กดสกิล เดินวน และเก็บทรัพยากรไปพร้อมกัน

นอกจากนี้ยังสามารถคุมเป้าหมายด้วย Enthrall ทำให้ศัตรูกลายเป็นบริวารช่วยยิงศัตรูตัวอื่นต่อได้อีกชั้น เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการ Warframe ตัวเดียวจบ เล่นได้ทุกโหมดโดยไม่ต้องเปลี่ยนเฟรมบ่อย ๆ
จุดเด่น:

  • เมต้าอมตะ ใช้ได้ทุกโหมด
  • ดาเมจแรงด้วย Danse Macabre
  • เหมาะกับผู้เล่นทุกระดับ

2. Wisp Prime

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Wisp แข็งแกร่งมากในบทบาทซัพพอร์ต เนื่องจาก Reservoir สามารถวางบัฟให้ทั้งทีมพร้อมกัน ทั้ง Heal, Speed และเพิ่ม Vitality ทำให้ทีมตัวบาง ๆ เอาตัวรอดได้ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะในคอนเทนต์ที่ศัตรูยิงแรงแบบ Steel Path หรือ Arbitrations ก็ยังช่วยประคองทีมได้ดี

Teleport จากสกิล 2 ทำให้ Wisp เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัว สามารถย้ายตำแหน่งไปวางบัฟหน้าแนวรบ หรือหนีจากสถานการณ์อันตรายได้รวดเร็ว อีกทั้งยังใช้ประกบกับการเล่นปืน / อาวุธประชิดได้ดี ทำให้สไตล์การเล่นลื่นไหล ไม่ติดขัด

สกิล 4 ยังมีดาเมจและ CC ในตัว สามารถหยุดศัตรูกลุ่มใหญ่และทำให้ทีมจัดการง่ายขึ้น ทำให้ Wisp เป็นทั้งสายบัฟ สายซัพพอร์ต และช่วยโจมตีในตัวเดียว เหมาะมากทั้งการเล่นเดี่ยวและปาร์ตี้ระยะยาว
จุดเด่น:

  • Buff แรงมาก
  • CC ดี
  • เหมาะทั้งทีมและ Solo

3. Saryn Prime

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Saryn ขึ้นชื่อเรื่องการทำลายล้างแบบ AOE ด้วยสกิล Spore ที่กระจายความเสียหายแบบ DoT ไปยังศัตรูจำนวนมาก ยิ่งศัตรูเยอะ ยิ่งเก่ง เพราะความเสียหายจะลามต่อกันไปเรื่อย ๆ ทำให้เคลียร์แผนที่ได้ไวมาก โดยเฉพาะใน Survival และ Defense

เมื่อผสมสกิล Miasma เข้ากับ Status ที่อยู่บนศัตรู จะยิ่งระเบิดดาเมจรุนแรงขึ้นไปอีก ทำให้มอนเลเวลสูงยังละลายได้ หากบิลด์ม็อดอาวุธและพลังความสามารถให้เหมาะสม ทำให้ Saryn ถูกหยิบมาใช้บ่อยมากในเมต้าฟาร์มฆ่ามอนหมู่

จุดที่ควรระวังคือศัตรูเลเวลสูงมาก ๆ อาจต้องเน้นการคุมจังหวะและจัดการตำแหน่งให้ดี เพราะ Saryn ไม่ได้เป็นสายแทงค์โดยตรง จึงควรผสมเกราะ/เกจชีวิตจากม็อดเสริมเพื่อให้ยืนได้นานขึ้นใน Steel Path
จุดเด่น:

  • ดาเมจ DoT รุนแรง
  • AOE ทำความสะอาดแผนที่เร็วมาก
  • เมต้าในการไล่เก็บศัตรูจำนวนมาก

4. Octavia Prime

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Octavia เป็น Warframe สาย “ตั้งค่าทิ้งไว้แล้วปล่อยบอทเล่นเอง” ด้วยการใช้สกิล Metronome และ Mallet สร้างทั้งดาเมจและบัฟไปในเวลาเดียวกัน ผู้เล่นสามารถล่องหนเกือบถาวร หากรักษาจังหวะการเคลื่อนไหวให้เข้ากับสกิล

Mallet จะดึงไฟร์จากศัตรูแล้วสะท้อนดาเมจกลับไปแบบทวีคูณ เมื่อวางในจุดที่มอนรวมตัวกันจะเห็นความแตกต่างชัดเจน แม้ศัตรูเลือดหนาใน Steel Path ก็ยังถูกละลายได้อย่างไม่ยากเกินไป ทำให้เหมาะทั้งสาย Solo และปาร์ตี้

นอกจากนี้ยังช่วยให้ทีมได้รับบัฟด้านดาเมจและความเร็วในการเคลื่อนที่ ทำให้ทั้งทีมเล่นง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยจุดเด่นที่ทั้งทำดาเมจสูง ล่องหนได้ และช่วยทีมได้ Octavia จึงจัดอยู่ในระดับเมต้าที่ยากจะถูกแทนที่
จุดเด่น:

  • ล่องหนยาวนาน
  • ดาเมจสูงแบบ “ปล่อยบอทเล่นเอง”
  • ดีที่สุดสำหรับการ Solo Steel Path

Tier S – แข็งแกร่ง ใช้งานง่าย ปรับแต่งได้หลากหลาย

เฟรมระดับนี้รองจาก S+ เพียงเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในทุกสถานการณ์

5. Khora

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Khora โดดเด่นเรื่องการฟาร์มด้วยสกิล Strangledome และ Whipclaw ที่สามารถดึงศัตรูให้มารวมกันแล้วลงดาเมจซ้ำ ๆ เป็นวงกว้าง เหมาะมากสำหรับภารกิจ Survival / Defense หรือการเก็บทรัพยากรต่อเนื่องยาว ๆ

Venari (สัตว์เลี้ยงของ Khora) ยังช่วยเพิ่มดาเมจ สนับสนุนการโจมตี หรือช่วยป้องกันตามโหมดที่เลือก ทำให้ Khora เหมือนมีเพื่อนร่วมทีมในตัวเองอีกหนึ่งตัว โดยเฉพาะเมื่อปรับม็อดให้เข้ากับสายโจมตีหรือป้องกัน

ด้วยความที่ Khora สามารถดึงมอนให้ไปกองรวมจุดเดียว ทำให้ประหยัดกระสุน ช่วยให้ทีมอื่นยิงหรือปล่อยสกิลใส่ได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับปาร์ตี้ฟาร์มยาว ๆ และการเล่นในแมพที่มอนเกิดต่อเนื่อง
จุดเด่น:

  • ฟาร์มทรัพยากรเยี่ยม
  • ทำดาเมจต่อเนื่อง
  • ใช้ดีทั้ง Solo/ทีม

6. Mesa Prime

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Mesa เป็น Warframe สายปืนแบบแท้จริง ด้วยสกิล Peacemaker ที่ใช้ปืนคู่ Regulator ยิงศัตรูรอบตัวแบบอัตโนมัติ ดาเมจคริสูงมาก สามารถเคลียร์ห้องได้ภายในไม่กี่วินาทีเมื่อบิลด์ถูกทาง

สกิล Shooting Gallery และ Shatter Shield ช่วยเพิ่มความอยู่รอด ลดดาเมจที่ได้รับ และเพิ่มประสิทธิภาพการยิงให้กับตัวเองและทีม ทำให้ Mesa ไม่ใช่แค่สายโจมตีแต่ยังมีความสามารถด้านป้องกันในตัว

ข้อควรรู้คือ Mesa จะเด่นมากในพื้นที่โล่งกว้างหรือห้องที่มอนเกิดในระยะยิงของ Peacemaker ถ้าแมพซับซ้อนมีที่กำบังเยอะ ผู้เล่นอาจต้องขยับตำแหน่งบ่อยหน่อย แต่ถ้าเจอแมพเหมาะ ๆ จะรู้สึกว่า “ทุกอย่างละลายหายไปในทันที”
จุดเด่น:

  • ดาเมจปืนไร้เทียมทาน
  • เหมาะกับภารกิจป้องกันและกำจัด
  • สร้างความเสียหายต่อเนื่องสูง

7. Protea

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Protea เป็น Warframe สาย Utility สุดครบเครื่อง มีทั้งป้อมยิง (Turret), Dispensary ที่ให้กระสุน/พลังงาน และสกิลย้อนเวลา Temporal Anchor ที่ช่วยเซฟตัวเองจากการตายหรือความผิดพลาด

ป้อมของ Protea สามารถช่วยทำดาเมจต่อเนื่องในพื้นที่ที่มอนเกิดหนาแน่น ช่วยแบ่งภาระจากผู้เล่น ตัว Dispensary ทำให้ทั้งทีมแทบไม่ต้องกังวลเรื่องกระสุนและพลังงาน เหมาะมากกับคอนเทนต์ยาว ๆ หรือทีมที่ใช้สกิลบ่อย

สกิลย้อนเวลาเป็นประกันความเสี่ยงที่ดี หากหลุดเข้าไปในจุดอันตรายหรือตายได้ง่าย ก็สามารถย้อนกลับมาจุดเดิมพร้อมฟื้นพลังชีวิตและพลังงาน เป็นหนึ่งในเฟรมที่ดึงศักยภาพของทีมทั้งทีมให้สูงขึ้นได้อย่างชัดเจน
จุดเด่น:

  • บัฟดี
  • ป้อมช่วยดาเมจแรง
  • ให้กระสุนและพลังงานแบบไม่จำกัด

8. Rhino Prime

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Rhino เหมาะสุด ๆ สำหรับมือใหม่ เพราะสกิล Iron Skin ช่วยเพิ่มเกราะทำให้ยืนเลนง่ายและไม่ตายเร็ว สามารถฝึกเรียนรู้ระบบเกมโดยไม่ต้องกลัวโดนยิงล้มตลอดเวลา โหมดยากอย่าง Steel Path ก็ยังใช้ได้ดีหากบิลด์ม็อดเสริมถูก

Roar เป็นหนึ่งในสกิลเพิ่มดาเมจให้ทั้งทีมที่ทรงพลังมาก สามารถใช้งานร่วมกับอาวุธเมต้า เพื่อดันดาเมจให้ทะลุระดับศัตรูเลือดหนาในคอนเทนต์สูง ๆ เช่น Boss หรือ Eidolon จึงไม่น่าแปลกใจที่ Rhino มักถูกใช้เป็นตัวบัฟในหลายทีม

ในแง่การควบคุมแผนที่ Rhino มีสกิล Stomp ที่หยุดศัตรูในระยะกว้าง เป็น CC ที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ทำให้ทั้งยิง ทั้งบัฟ ทั้งแทงค์ ทุกอย่างอยู่ในเฟรมเดียว จึงเหมาะมากที่จะเป็น Warframe หลักสำหรับผู้เล่นทุกสาย
จุดเด่น:

  • บัฟ Roar แรงมาก
  • อยู่รอดสูงด้วย Iron Skin
  • ใช้ได้ดีทุกเนื้อหา

Tier A – แข็งแรง เหมาะสำหรับคอนเทนต์เฉพาะทาง

เฟรมกลุ่มนี้แข็งแกร่ง แต่ไม่ครอบจักรวาลเท่าระดับ S ขึ้นไป เหมาะสำหรับภารกิจเฉพาะทาง เช่น Spy, Capture, หรือฟาร์มบางประเภท

9. Volt Prime

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Volt มีความเร็วในการเคลื่อนที่สูงและสามารถเพิ่มความเร็วให้เพื่อนร่วมทีมด้วยสกิล Speed ทำให้เหมาะกับภารกิจที่ต้องทำเวลา เช่น Capture, Sabotage หรือการวิ่งฟาร์มทรัพยากรตามจุดต่าง ๆ บนแมพ

สกิล Electric Shield ยังช่วยเพิ่มดาเมจวิถีกระสุน และเพิ่มความปลอดภัยให้กับทีมเมื่อยืนยิงจากหลังโล่ จึงถูกใช้บ่อยในคอนเทนต์อย่าง Eidolon Hunt ที่ต้องการดาเมจวิถีกระสุนสูงและความแม่นยำในการยิงจุดอ่อน

ดาเมจจากสกิล AOE ของ Volt ยังช่วยจัดการฝูงมอนได้ดีในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ทำลายล้างเท่าพวก Saryn แต่ก็เพียงพอสำหรับคอนเทนต์ส่วนใหญ่ และมีความยืดหยุ่นในการบิลด์สูง
จุดเด่น:

  • สร้างดาเมจไฟฟ้าแรง
  • บัฟยิงเร็ว
  • ทำความสะอาดมอนจำนวนมากได้ดี

10. Nekros Prime

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Nekros เป็น Warframe ที่แทบจะเป็น “มาตรฐาน” ด้านการฟาร์ม เพราะ Desecrate ช่วยเพิ่มอัตราดรอปไอเทมจากศัตรูที่ตาย ทำให้คนในทีมได้ทรัพยากรมากขึ้นในเวลาเท่าเดิม ยิ่งเล่นนาน ยิ่งเห็นความคุ้ม

สกิล Shadows of the Dead สามารถเรียกศัตรูที่ตายแล้วมาเป็นพวก ช่วยดึงไฟร์และแบ่งดาเมจจากผู้เล่น ทำให้ความอยู่รอดเพิ่มขึ้นในสถานการณ์ที่มอนจำนวนเยอะหรือยิงแรง โดยเฉพาะใน Steel Path

แม้ Nekros จะไม่ได้มีดาเมจสุดโหดเหมือนเครมอื่น แต่จุดแข็งคือตอบโจทย์การฟาร์มในระยะยาว ผู้เล่นส่วนใหญ่จะมี Nekros ติดไอดีไว้ เพราะได้ใช้แน่นอนเมื่อถึงเวลาลงฟาร์มหนัก ๆ

จุดเด่น:

  • เพิ่มดรอปไอเทม
  • เรียกซอมบี้ช่วยสู้
  • เหมาะกับทีมฟาร์มทรัพยากร

11. Harrow

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Harrow เป็นเฟรมที่เน้นการสนับสนุนด้านคริติคอล, การเติมพลังงาน และความอยู่รอดของทีมผ่านสกิล Covenant ที่ช่วยป้องกันดาเมจและเปลี่ยนเป็นโบนัสคริกลับไปหาศัตรู

สกิล Thurible ทำให้เมื่อทีมฆ่าศัตรูจะได้พลังงานคืน ทำให้ทุกคนสามารถสแปมสกิลได้ยาว ๆ โดยไม่ต้องพึ่ง Energy Restore มากนัก ยิ่งในปาร์ตี้ที่ใช้สกิลแรง ๆ บ่อย Harrow จะยิ่งโดดเด่น

การเล่น Harrow ต้องอาศัยจังหวะและการอ่านสถานการณ์พอสมควร แต่เมื่อชำนาญแล้ว จะรู้สึกได้ว่าทั้งดาเมจและความอยู่รอดของทีมดีขึ้นเป็นเท่าตัว เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบซัพพอร์ตแบบ “ดาเมจไปด้วย ช่วยเพื่อนไปด้วย”
จุดเด่น:

  • เติมพลังงาน
  • เพิ่มอัตราคริ
  • เหมาะกับปืนดาเมจสูง

12. Gauss

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Gauss เป็น Warframe สายความเร็วสุดจัด มีเกจความร้อน/ความเย็นที่ต้องบริหาร เพื่อให้ได้บัฟด้านเกราะ ความเร็ว และดาเมจในระดับสูงสุด การเคลื่อนที่ของ Gauss เร็วจนสามารถวิ่งผ่านแผนที่ได้ในเวลาไม่กี่วินาที เหมาะมากกับภารกิจที่เน้นเคลื่อนที่

สกิลป้องกันช่วยลดดาเมจที่ได้รับ ทำให้สามารถวิ่งฝ่ากลุ่มศัตรูระดับสูงได้โดยไม่ล้มง่าย อีกทั้งยังมีสกิลโจมตีที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะเมื่อบริหารเกจได้ดี

จุดเด่นคือความสนุกในการควบคุม ถ้าคุณชอบการเล่นเร็ว ๆ วิ่งไปเก็บเป้าหมายบนแมพ หลีกเลี่ยงการยืนยิงแบบเดิม ๆ Gauss เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุดตัวหนึ่งในเกม
จุดเด่น:

  • เคลื่อนที่เร็วมาก
  • ป้องกันดาเมจได้ดี
  • เหมาะกับภารกิจที่ต้องการความเร็ว

Tier B – ตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เล่นทั่วไป

เฟรมระดับนี้ใช้งานได้ดี แต่ต้องปรับบิลด์ให้เหมาะจึงจะทำประสิทธิภาพสูงสุด

13. Ember

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Ember เป็นสายไฟ AOE ที่เล่นง่าย เพียงใช้สกิลเพื่อจุดไฟศัตรูในวงกว้าง เหมาะกับคอนเทนต์ที่ศัตรูเลเวลยังไม่สูงมาก เพราะจะรู้สึกได้ชัดเจนว่ามอน “ละลาย” ได้รวดเร็ว และแมพสะอาดเร็วมาก

เมื่อศัตรูเริ่มเลเวลสูง Ember จะต้องพึ่งบิลด์ที่เน้นสถานะ (Status) และการใช้สกิลอย่างชาญฉลาดมากขึ้น เช่น เน้น CC และเผาสะสมมากกว่าหวังสังหารในครั้งเดียว ทำให้มีสไตล์การเล่นที่ลึกขึ้น

เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบสไตล์ “แม่มดไฟ” กดสกิลลุกไหม้รอบตัว และต้องการ Warframe สำหรับภารกิจฟาร์มกลาง ๆ ไม่ถึงขั้น Endgame Steel Path หนัก ๆ
จุดเด่น:

  • AOE ไฟแรง
  • เคลียร์ฝูงมอนได้เร็ว
  • ง่ายต่อการเล่น

14. Frost Prime

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Frost เป็นเฟรมป้องกันคลาสสิกที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ต้องเคยผ่าน จุดเด่นคือสกิล Snow Globe ที่สร้างโดมป้องกัน เหมาะกับ Defense, Mobile Defense และโหมดที่ต้องป้องกันจุดสำคัญ ทำให้ศัตรูเข้าถึงเป้าหมายได้ยาก

สกิลอื่น ๆ ของ Frost ยังมอบ CC และดาเมจธาตุน้ำแข็ง ช่วยชะลอหรือหยุดศัตรูในพื้นที่กว้าง ทำให้ทีมเล่นง่ายขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มอนบุกเข้ามาหนัก ๆ

แม้ Frost จะไม่ได้เน้นดาเมจสุดโหดเหมือน Tier S แต่ข้อดีคือความ “มั่นคง” ในการทำหน้าที่ป้องกันจุด เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบสไตล์ตั้งป้อม ยืนรักษาเป้า ไม่เน้นวิ่งไล่ลุยไปทั่วแมพ
จุดเด่น:

  • ใช้กับ Defense ได้ดีมาก
  • สร้างโล่ลดแรงโจมตี
  • มี CC รอบตัว

15. Excalibur Umbra

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Excalibur Umbra เป็นเวอร์ชันอัปเกรดจาก Excalibur ปกติ มีเนื้อเรื่องเฉพาะตัวและสามารถต่อสู้เองเมื่อผู้เล่นเข้าสู่โหมด Operator ทำให้เหมือนมี NPC ช่วยสู้ในทีมตลอดเวลา

จุดเด่นหลักคือ Exalted Blade ที่ใช้ดาบพลังงานยิงคลื่นออกไปได้ ทำให้โจมตีศัตรูได้ทั้งระยะใกล้และกลางในเวลาเดียวกัน เล่นง่าย สนุก และให้ฟีลนักดาบ Sci-fi แบบจัดเต็ม

เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบสายประชิด แต่ไม่อยากเสี่ยงเข้าไปยืนเบียดศัตรูตลอดเวลา เพราะคลื่นดาบช่วยคุมระยะให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ใช้งานได้ตั้งแต่ต้นเกมจนถึงคอนเทนต์ระดับกลางถึงสูง หากบิลด์ม็อดดี ๆ
จุดเด่น:

  • ดาบ Exalted Blade แรง
  • ง่ายและสนุก
  • เล่นได้ทุกระดับ

Tier C – ใช้ได้ แต่ต้องการบิลด์เฉพาะหรือสถานการณ์จำกัด

16. Loki

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Loki เป็นเทพแห่งการล่องหนและหลอกศัตรู เหมาะมากสำหรับภารกิจ Spy, Rescue หรือภารกิจที่ไม่อยากปะทะโดยตรง สามารถแอบลุยเป้าหมายได้อย่างเงียบเชียบ

แม้สกิลล่องหนจะดีมาก แต่ Loki ขาดเครื่องมือด้านดาเมจหนัก ๆ ทำให้ไม่เหมาะกับการลุยคอนเทนต์ที่ต้องการฆ่าศัตรูเร็ว ๆ หรือสู้ดาเมจสูง ๆ แบบต่อเนื่อง ส่วนมากจึงถูกใช้เฉพาะในบางโหมดเท่านั้น

เหมาะกับคนที่ชอบสไตล์แอบแฝง ลักลอบ ทำภารกิจแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ มากกว่าการเข้าไปลุยกลางดงมอน
จุดเด่น:

  • สายลอบเร้น
  • เหมาะกับ Spy
  • ดาเมจเบา

17. Hydroid

Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์

Hydroid เคยถูกใช้ด้านการฟาร์มเพราะสกิลที่ทำให้ศัตรูดรอปของเพิ่มขึ้น แต่เมื่อมีเฟรมอย่าง Khora และ Nekros ที่ทำหน้าที่นี้ได้มีประสิทธิภาพกว่า Hydroid จึงค่อย ๆ หลุดจากเมต้าหลัก

สกิลน้ำของ Hydroid มีทั้ง CC และดึงศัตรูไปไว้ในพื้นที่เดียวกัน แต่ดาเมจและความเร็วในการจัดการศัตรูค่อนข้างช้า เมื่อเทียบกับตัวเลือกใหม่ ๆ ที่ทำลายล้างได้ไวกว่า จึงมักถูกมองว่าเป็นเฟรมที่เล่น “เพราะชอบธีม” มากกว่าเพราะความคุ้ม

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณชอบสไตล์โจรสลัด/น้ำทะเล Hydroid ก็ยังเป็นตัวเลือกที่สนุกในสายแฟชั่นและการเล่นสนุก ๆ ไม่เน้นดันคอนเทนต์ระดับสูงสุดของเกม

จุดเด่น:

  • ดรอปทรัพยากร
  • CC พอใช้
  • ดาเมจไม่สูง

 

LDPlayer – ผู้ช่วยที่ดีที่สุดในการเล่น Warframe บน PC
Warframe Tier List อันดับเฟรมที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์
  • เฟรมเรตสูง ไม่แลค : ดันเจี้ยน บอสโลก กิลด์วอร์ ก็ยังลื่น

  • หลายไอดีเก็บเลเวล : ฝึกตัวละครพร้อมกัน จัดทีมลงดันมีประสิทธิภาพ

  • มาโครออโต้ : เก็บของ ทำเควส ส่งกิลด์คอนทริบิวต์สบาย ๆ

  • อัดคลิป/แคปจอ : บันทึกช่วงเวลามันส์ ๆ แชร์ลงโซเชียลมีเดียได้ทันที

 ดาวน์โหลด LDPlayer ทันที แล้วเริ่มต้นการผจญภัย!
ดาวน์โหลดและเล่น Warframe บน PC

 

สรุป ควรเลือก Warframe ไหนดี?

หากคุณเป็นผู้เล่นใหม่หรือกลับมาเล่นอีกครั้ง และต้องการเฟรมที่คุ้มค่า

แนะนำสำหรับทุกโหมด (เมนได้เลย)

  • Revenant
  • Wisp
  • Octavia
  • Saryn

แนะนำสำหรับฟาร์ม

  • Khora
  • Nekros

แนะนำสำหรับ Solo ง่าย ๆ

  • Revenant
  • Octavia

แนะนำสำหรับล่า Eidolon

  • Volt
  • Rhino (Roar build)