Black Beacon - ไกด์ Ancient Mark สิ่งที่ควรรู้ก่อนเล่น
ระบบ Ancient Marks เป็นระบบที่สำคัญมากๆระบบนึงของเกมส์เลยก็ว่าได้ ทั้งเพิ่มสเตตัส ให้เอฟเฟคพิเศษแก่ตัวละครหรือทีม วันนี้เราจะมาแนะนำตั้งแต่วิธีการปลดล็อคไปยันการอัพเกรด บิ้วสเตตัส ช่องไหนรูปร่างแบบไหนมีเอฟเฟคยังไง ไม่รอช้าไปกันเลยครับ
Ancient Marks ปลดล็อคตอนไหน ?
การจะปลดล็อค Ancient Marks ได้นั้นต้องปลดขั้นลิมิตให้เป็นขั้น 2 ก่อนเท่านั้น เมื่อปลดลิมิตถึงแล้วก็จะสามารถติดตั้งได้ทันที โดย Mark พวกนี้นั้นหาสามารถหาได้จากการซื้อในร้านค้า Seals of Fate หรือดรอปจาก Tome of Fate ได้เช่นกัน แต่ Mark 10 นั้นเป็น Mark พิเศษที่ได้จากการซื้อในร้านหลักเท่านั้น ไม่มีการดรอปสุ่มใดๆทั้งสิ้น
โดยเมื่อผู้เล่นปลดขั้นสูงขึ้นก็จะมีช่องให้ใส่ Marks เพิ่มขึ้นเรื่อยๆดังนี้
-
ลิมิต 2 ปลด 19 ช่อง
-
ลิมิต 3 ปลด 24 ช่อง
-
ลิมิต 4 ปลด 29 ช่อง
โดยมีสเตตัสที่สามารถใส่เพิ่มได้จาก Mark นั้นมี ATK, DEF, HP, เจาะทะลุ, Element Mastery, Crirate, Cridamage, ดาเมจธาตุทั้ง 5 ธาตุ
โดยระบบนี้จะทำให้คุณมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการบิ้วตัวละครของคุณเอง
การอัพเลเวลและแกะสลัก Mark
คำแนะนำแรกสำหรับมือใหม่คือการจะอัพเลเวล Marks ได้นั้นต้องใช้ Marks ที่มีรูปร่างและเอฟเฟคที่เหมือนกันเท่านั้นถึงจะอัพได้ และทุกๆเลเวลที่อัพขึ้นไปนั้นจะปลดล็อค Substats ให้ Marks ของคุณด้วย โดยสามารถอัพได้สูงสุดที่เลเวล 3 และมีได้สูงสุด 3 Substats ซึ่งทำให้การทำสเตตัสให้ตัวละครคุณนั้นยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย
ในการแกะสลักค่า Substats ใหม่นั้นคุณต้องใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าสิ่วในการแกะสลัก ซึ่งหากเป็น Mark 10 นั้นจะต้องใช้สิ่วทองคำ แต่หากเป็น Marks หมายเลข 5 ลงไปจะใช้แค่สิ่วเหล็กเท่านั้น ซึ่งจะหาสิ่วได้จากการซื้อในร้านค้าหรือจาก Battle pass ซึ่งแนะนำว่าให้เติม Battle pass จะคุ้มสุดๆ โดยการแกะสลัก Substats ใหม่นั้นไม่เหมือนกับเกมส์อื่นๆที่จะสุ่มแต่ว่าเราสามารถเลือกค่าที่ต้องการได้เลย ซึ่งก่อนจะแกะสลักก็แนะนำให้อัพเลเวลให้สูงสุดก่อนแล้วค่อยแกะทีเดียว เพื่อความสะดวกและเผื่อจะออก Substats ที่เราต้องการจะได้ไม่เสียสิ่วไปฟรีๆครับผม
รูปร่าง Ancient Marks และปรับแต่งยังไงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
Ancient Marks ในเกมส์นี้มีรูปร่างหลายแบบซึ่งแต่ละแบบนั้นก็ให้เอฟเฟคที่ต่างกัน ซึ่งแต่ละเอฟเฟคนั้นก็ถือว่าเก่งมากๆเลยหละครับ ซึ่งแต่ละรูปร่างจะมีชื่อดังนี้ Tower, Dragon, Blazing Fire ซึ่งแต่ละอันก็จะเสริมเอฟเฟคให้ตัวละครโดยแยกเป็นประเภท DPS ,Off Field DPS,Support มาเริ่มที่
-
Tower Mark
Tower Mark นั้นออกแบบมาเพื่อตัวละคร DPS โดยเฉพาะ โดยเอฟเฟคจะแบ่งออกเป็น 4 อย่างโดยจะมีเอฟเฟคดังนี้
-
เมื่อโจมตีศัตรูจะได้รับ Tower Mark ระหว่างที่ Mark ทำงานอยู่จะทำให้ผู้ใช้งานได้รับดาเมจโจมตีปรกติเพิ่มขึ้นเป็นระยะเวลานึง
-
การโจมตีปรกติจะได้รับ Tower Mark ซึ่งจะให้เอฟเฟคเพิ่มอัตราคริตามจำนวนสแต็คที่มี แต่หากผู้ใช้ ใช้สกิลโจมตีบัพนี้จะหายไปทันที
-
เมื่อผู้ใช้ ได้ใช้งานค่าสตามิน่าจะได้รับ Tower Mark ทำให้เพิ่มค่าเจาะเกราะตามจำนวนค่าสตามิน่าที่ใช้ไปเป็นระยะเวลานึง (สแต็คได้)
-
เมื่อผู้ใช้ ใช้สกิลที่ไม่เสียสตามิน่าจะเพิ่มความเสียหายที่สร้างด้วยสกิลประเภทที่ไม่เสียสตามิน่าเพิ่มขึ้นระยะเวลานึง (สแต็คได้)
โดย marks นี้เหมาะกับตัวละครสาย DPS ที่สุดเราจึงแนะนำให้ใส่กับตัวละครอย่าง Florence, Li Chi, Ershan, Qing, Yuli, Wushi, Xin, Shamish และยังมีตัวเลือกอื่นๆเช่น Nunu, Logos, Yola, Jiza, Niser, Zero
-
Dragon Mark
Dragon Mark เป็น Marks ที่เหมาะกับตัวละครที่สามารถสร้างความเสียหายได้แม้จะไม่ได้อยู่ในสนามก็ตามหรือที่พวกเรารู้จักกันในชื่อ Off Field DPS นั่นเอง โดย Marks นี้จะมีเอฟเฟคได้สองรูปแบบคือ
-
เมื่อผู้ใช้สร้างความเสียหายขณะอยู่นอกสนาม จะได้รับ Dragon Mark ซึ่งจะเพิ่มดาเมจธาตุให้ผู้ใช้จำนวนนึง โดยอิงตามค่าธาตุดั้งเดิมของตัวละครนั้นๆ ซึ่งจะมีระยะเวลาบัพตามที่กำหนด
-
เมื่อผู้ใช้สร้างความเสียหายขณะอยู่นอกสนาม จะได้รับ Dragon Mark ซึ่งจะเพิ่ม Elemental Anomaly และ Mastery ในจำนวนที่กำหนด และเพิ่ม DoT ของ Elemental Anomaly เป็นเปอร์ระยะเวลานึง เอฟเฟคจะเพิ่มตามขีดจำกัดที่กำหนด
โดยตัวละครที่ใช้ Dragon Mark หลักๆได้แก่ Nanna, Logos, Viela, Jica, Ming
-
Blazing Fire Mark
Blazing Fire Mark นั้นเหมาะกับตัวละครประเภท Shielder, Healer, Support เพื่อเพิ่มความสามารถในการเอาตัวรอดของทีมโดยมีเอฟเฟคที่เปิดทำงานได้ 3 อย่างคือ
-
เมื่อผู้ใช้เลือดลดลงไปถึงระดับเปอร์เซนที่กำหนดและฟื้นเลือดกลับมาจนเต็ม จะได้รับ Blazing Fire Mark และทำให้ ATK ของตัวละครในทีมที่ค่าสตามิน่าลดถึงระดับที่กำหนดเพิ่มขึ้นจนกว่าสตามิน่าของผู้ใช้หมด
-
เมื่อผู้ใช้ทำการรักษาตัวละครธาตุไฟตัวอื่นในทีม (ในขณะที่มี Blazing Fire Mark) จะได้รับฮีลและ ATK เพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซนตามระยะเวลาที่กำหนด
-
เมื่อตัวละครในทีมมีโล่ป้องกัน ผู้ที่มีจะโล่จะได้รับ Blazing Fire Mark เป็นระยะเวลานึง หากตัวละครที่มีโล่ได้รับความเสีย จะสะท้อนกลับไปหาผู้ที่โจมเป็นดาเมจกายภาพตามเปอร์เซนดาเมจที่ได้รับ
Marks นี้จะใช้งานบ่อยในตัวละครประเภทซัพพอร์ทเป็นส่วนใหญ่ โดยตัวละครที่แนะนำให้ใช้ Marks นี้มี Logos, Niser, Azi, Hephae และตัวอื่นๆที่สามารถใช้ได้เช่นกันคือ Nunu, Viela, Jiza, Ming
โดย Substats ที่สามารถเพิ่มได้ใน Marks ทั้ง 3 แบบคือ
ATK 15% |
DEF 24% |
HP 20% |
Crit Rate 20% |
Cri Damage 50% |
Ele. Anomaly 200 |
เจาะเกราะ 23% |
Ele.DMG 13.5% |
เข้าใจเกี่ยวกับ Marks และเอฟเฟคของมัน
จำนวนช่องของ Marks ที่ตัวละครนั้นมี จะเป็นตัวกำหนดว่าตัวละครไหนจะได้มีเอฟเฟคแบบไหน และได้ Substats พื้นฐานเป็นแบบไหน ซึ่งตัวผู้เล่นสามารถไปปรับแต่ง Substats ได้ตามที่ต้องการเองภายหลัง โดย Marks นั้นจะแบ่งประเภทตามรูปร่างและจำนวนช่องของมัน โดยจะมี 5ช่อง 3ช่อง และ 1 ช่อง โดยช่องที่จะมีเอฟเฟคพิเศษมีแค่ 5 ช่องเท่านั้น 3 และ 1 ช่องจะได้แค่ค่าสเตตัสของ Marks เท่านั้น
โดยจะมีรูปแบบ Marks 3 แบบโดยแต่ละแบบมีจะมีเอฟเฟคดังนี้
5 ช่องประเภทที่ 1
Effect |
|
Substats ที่ให้มา |
|
5 ช่องประเภทที่ 2
Effect |
|
Substats ที่ให้มา |
|
5 ช่องประเภทที่ 3
Effect |
|
Substats ที่ให้มา |
|
จบไปแล้วครับสำหรับไกด์แนะนำ Marks เช่นเดียวกับอาวุธเลยครับ Marks นั้นจะช่วยทำให้ตัวละครของคุณเก่งขึ้นมากๆ ในตอนนี้เราได้บอกวิธีการจัดการกับ Marks และบิ้ว Marks ยังไงให้เหมาะกับตัวละครรูปแบบไหน ยังไงสำหรับวันนี้ทางเราขอลาไปก่อนนะคร้าบ บ๊ายบายยย~
บทความที่เกี่ยวข้อง:
Black Beacon - ไกด์แนะนำสำหรับผู้เล่นใหม่เกม
Black Beacon อาวุธยอดเยี่ยมปี 2025: คู่มือเลือกใช้อาวุธแบบละเอียด!
Black Beacon Tier List ประจำเดือนเมษายน 2025 จัดอันดับฮีโร่ที่ดีที่สุด
เคล็ดลับการต่อสู้และกลยุทธ์คอมโบในเกม Black Beacon เพื่อคว้าชัยชนะในสนามรบ