การฝึกสติคือกระบวนการฝึกฝนจิตใจให้อยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่และอยู่กับปัจจุบันโดยไม่ตัดสินหรือวอกแวก การปฏิบัตินี้แสดงให้เห็นว่ามีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพจิตและร่างกาย รวมถึงการลดความเครียด เพิ่มสมาธิและสมาธิ และเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม
หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้การเจริญสติ มีแหล่งข้อมูลมากมายที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ ต่อไปนี้คือเคล็ดลับและกลวิธีในการรวมสติเข้ากับชีวิตประจำวันของคุณ:
เริ่มต้นเล็ก ๆ : คุณไม่จำเป็นต้องทำสมาธิเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวันเพื่อสัมผัสกับประโยชน์ของการเจริญสติ แม้แต่การหายใจอย่างมีสติหรือการสแกนร่างกายเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเป็นประโยชน์ได้ เริ่มจากเวลาน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเมื่อคุณรู้สึกสบายขึ้น
ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ: เช่นเดียวกับทักษะอื่นๆ การมีสติต้องใช้การฝึกฝน ฝึกสติให้เป็นนิสัยทุกวันแม้จะเพียงไม่กี่นาทีก็ตาม ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญในการมองเห็นความก้าวหน้า
หาพื้นที่เงียบสงบ: อาจเป็นเรื่องยากที่จะจดจ่ออยู่กับการเจริญสติในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังหรือเสียสมาธิ ลองหาพื้นที่เงียบสงบที่คุณสามารถผ่อนคลายและจดจ่อกับการฝึกฝนของคุณ
จดจ่อกับลมหายใจ: หนึ่งในเทคนิคการเจริญสติที่ง่ายที่สุดคือการจดจ่อกับลมหายใจ หลับตาและจดจ่อกับความรู้สึกของลมหายใจที่เคลื่อนเข้าและออกจากร่างกาย เมื่อไรก็ตามที่จิตล่องลอย ให้ค่อยๆ ดึงสติกลับมาที่ลมหายใจ
สังเกตความคิดของคุณ: สติเกี่ยวข้องกับการสังเกตความคิดของคุณโดยไม่ตัดสินหรือยึดติด ในขณะที่คุณฝึกฝน คุณจะเริ่มสังเกตเห็นความคิดของคุณเมื่อมันเกิดขึ้น แทนที่จะจมอยู่กับพวกเขา เพียงแค่สังเกตพวกเขาและปล่อยให้พวกเขาผ่านไป
มีเมตตาต่อตนเอง: การเจริญสติไม่ได้เกี่ยวกับความสมบูรณ์แบบหรือการบรรลุสภาวะหนึ่งของจิตใจ มันเกี่ยวกับการอยู่กับปัจจุบันกับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ใจดีกับตัวเองและอย่าตัดสินตัวเองว่ามีความคิดหรือความรู้สึกที่ทำให้เสียสมาธิ
ใช้การทำสมาธิแบบมีไกด์: หากคุณยังใหม่กับการฝึกสติ การทำสมาธิแบบมีไกด์จะมีประโยชน์ มีแอพและเว็บไซต์มากมายที่ให้บริการการทำสมาธิแบบมีไกด์ฟรี หรือคุณสามารถหาได้บน YouTube
รวมสติเข้ากับชีวิตประจำวันของคุณ: สติไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณทำระหว่างการทำสมาธิ คุณสามารถรวมมันเข้ากับชีวิตประจำวันของคุณโดยการอยู่กับปัจจุบันและมีส่วนร่วมในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การเดิน หรือการทำงาน
ฝึกความเห็นอกเห็นใจตนเอง: การมีสติสามารถช่วยให้คุณพัฒนาความเห็นอกเห็นใจและความเมตตาต่อตนเองได้ แทนที่จะตำหนิตัวเองเพราะความผิดพลาดหรือความล้มเหลว ให้ฝึกเห็นอกเห็นใจตนเองและปฏิบัติต่อตนเองด้วยความเมตตาและความเข้าใจ
หาความช่วยเหลือ: หากคุณมีปัญหาในการเจริญสติ ให้ขอความช่วยเหลือจากครู นักบำบัด หรือกลุ่มสนับสนุน พวกเขาสามารถให้คำแนะนำและช่วยให้คุณปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติของคุณได้
โดยสรุปแล้ว การฝึกสติเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาสุขภาพจิตและร่างกายของคุณ ด้วยการฝึกฝนเป็นประจำและรวมสติเข้ากับชีวิตประจำวันของคุณ คุณจะสัมผัสได้ถึงความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสัมผัสได้ถึงการมีอยู่และการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้การเจริญสติ มีแหล่งข้อมูลมากมายที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ ต่อไปนี้คือเคล็ดลับและกลวิธีในการรวมสติเข้ากับชีวิตประจำวันของคุณ:
เริ่มต้นเล็ก ๆ : คุณไม่จำเป็นต้องทำสมาธิเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวันเพื่อสัมผัสกับประโยชน์ของการเจริญสติ แม้แต่การหายใจอย่างมีสติหรือการสแกนร่างกายเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเป็นประโยชน์ได้ เริ่มจากเวลาน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเมื่อคุณรู้สึกสบายขึ้น
ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ: เช่นเดียวกับทักษะอื่นๆ การมีสติต้องใช้การฝึกฝน ฝึกสติให้เป็นนิสัยทุกวันแม้จะเพียงไม่กี่นาทีก็ตาม ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญในการมองเห็นความก้าวหน้า
หาพื้นที่เงียบสงบ: อาจเป็นเรื่องยากที่จะจดจ่ออยู่กับการเจริญสติในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังหรือเสียสมาธิ ลองหาพื้นที่เงียบสงบที่คุณสามารถผ่อนคลายและจดจ่อกับการฝึกฝนของคุณ
จดจ่อกับลมหายใจ: หนึ่งในเทคนิคการเจริญสติที่ง่ายที่สุดคือการจดจ่อกับลมหายใจ หลับตาและจดจ่อกับความรู้สึกของลมหายใจที่เคลื่อนเข้าและออกจากร่างกาย เมื่อไรก็ตามที่จิตล่องลอย ให้ค่อยๆ ดึงสติกลับมาที่ลมหายใจ
สังเกตความคิดของคุณ: สติเกี่ยวข้องกับการสังเกตความคิดของคุณโดยไม่ตัดสินหรือยึดติด ในขณะที่คุณฝึกฝน คุณจะเริ่มสังเกตเห็นความคิดของคุณเมื่อมันเกิดขึ้น แทนที่จะจมอยู่กับพวกเขา เพียงแค่สังเกตพวกเขาและปล่อยให้พวกเขาผ่านไป
มีเมตตาต่อตนเอง: การเจริญสติไม่ได้เกี่ยวกับความสมบูรณ์แบบหรือการบรรลุสภาวะหนึ่งของจิตใจ มันเกี่ยวกับการอยู่กับปัจจุบันกับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ใจดีกับตัวเองและอย่าตัดสินตัวเองว่ามีความคิดหรือความรู้สึกที่ทำให้เสียสมาธิ
ใช้การทำสมาธิแบบมีไกด์: หากคุณยังใหม่กับการฝึกสติ การทำสมาธิแบบมีไกด์จะมีประโยชน์ มีแอพและเว็บไซต์มากมายที่ให้บริการการทำสมาธิแบบมีไกด์ฟรี หรือคุณสามารถหาได้บน YouTube
รวมสติเข้ากับชีวิตประจำวันของคุณ: สติไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณทำระหว่างการทำสมาธิ คุณสามารถรวมมันเข้ากับชีวิตประจำวันของคุณโดยการอยู่กับปัจจุบันและมีส่วนร่วมในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การเดิน หรือการทำงาน
ฝึกความเห็นอกเห็นใจตนเอง: การมีสติสามารถช่วยให้คุณพัฒนาความเห็นอกเห็นใจและความเมตตาต่อตนเองได้ แทนที่จะตำหนิตัวเองเพราะความผิดพลาดหรือความล้มเหลว ให้ฝึกเห็นอกเห็นใจตนเองและปฏิบัติต่อตนเองด้วยความเมตตาและความเข้าใจ
หาความช่วยเหลือ: หากคุณมีปัญหาในการเจริญสติ ให้ขอความช่วยเหลือจากครู นักบำบัด หรือกลุ่มสนับสนุน พวกเขาสามารถให้คำแนะนำและช่วยให้คุณปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติของคุณได้
โดยสรุปแล้ว การฝึกสติเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาสุขภาพจิตและร่างกายของคุณ ด้วยการฝึกฝนเป็นประจำและรวมสติเข้ากับชีวิตประจำวันของคุณ คุณจะสัมผัสได้ถึงความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสัมผัสได้ถึงการมีอยู่และการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เพิ่มเติม